:: ก๋งจาบ ศิษย์รัตตัญญู สายวัดประดู่โรงธรรม::


.... เมื่อสมเด็จพระนเรศวร ได้ถูกแลกตัวกับพระพี่นางคือพระสุพรรณกัลยาไปเป็นตัวประกันของบุเรงนองกษัตริย์มอญ กรุงหงสาวดี พระมหาธรรมราชาพระราชบิดา จึงได้นำไปฝากไว้กับพระครูศรี เจ้าอาวาสวัดประดู่โรงธรรม เพื่อศึกษาพุทธเวทวิทยา อาคม และคัมภีรปราบไตรภพ ให้ทั้งสิ้น พร้อมนั้นพระอาจารย์ศรีได้ฝากพระนเรศวรให้ได้ศึกษาวิทยายุทธเพลงอาวุธ ที่วัดพุทไธสวรรค์ ส่งผลให้ทรงชำนะทุกศึกหงสาวดี โดยมีพระอาจารย์ศรีได้เป็นผู้วางฤกษ์ยามในการเคลื่อนทัพ ทำให้กองทัพกรุงศรีอยุธยามีชัยชำนะศึกยุทธหัตถีย์เมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเสด็จกลับมายังกรุงศรีอยุธยา ได้ถวายสมณะศักดิ์แด่พระอาจารย์ศรีเป็นสมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้ว

..... ภายหลังเมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ทรงชนะสงครามยุทธหัตถีย์ต่อกองทัพหงสาวดีแล้ว พระองค์ได้ทรงเปลี่ยนชื่อ "วัดป่าแก้ว หรือ วัดประดู่โรงธรรม" เป็น วัดไชยวนาราม (ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ได้มีการจัดตั้งกรมศิลปากรขึ้น เพื่อให้มีอำนาจขุดค้นครอบครองพุทธโบราณสถาน และ พุทธศาสนสมบัติ จึงมีการเปลี่ยนชื่อวัดเสียใหม่เป็น "วัดไชยวัฒนาราม" ตัดคำว่า วนา ซึ่งแปลว่า ป่า ออกไป และใช้อยู่ตราบปัจจุบัน)

.... สุดยอดวิชชาพุทธาคมของศิษย์รัตตัญญู สายวัดประดู่โรงธรรม ที่ถ่ายทอดสืบต่อมาโดยมิขาดสาย คือ ยันต์มหาจักพรรดิ ซึ่งเจ้าอาวาสวัดประดู่โรงธรรมทุกองค์ได้ใช้ในการลงบนใบลานหลังจากนั้นเผาด้วยเตโชกสิณ สำเร็จเป็นพระกริ่งเนื้อผง บรรจุในพระเจดีย์ถวายเป็นพุทธบูชาสืบต่อมา ซึ่งชนชั้นหลังเรียกว่า "พระกริ่งคลองตะเคียน"เพราะไปขุดพบในวัดต่างๆ ที่ย่านคลองตะเคียน สรรพวิชาของวัดประดู่โรงธรรมที่ปรากฏในยุครัตนโกสินทร์ฝ่ายบรรพชิตเช่นท่านเจ้ามา วัดสามปลื้ม ฝ่ายฆาราวาสเช่น ก๋งจาบ เป็นต้น

/html>